ทำไมที่ Mind English เราถึงเริ่มสอนจากการฟังและพูดแทนที่จะเริ่มจากการให้ท่องจำ Grammar?
.
คนไทยส่วนใหญ่เรียน Grammar หรือไวยากรณ์มาตั้งแต่เด็กๆ หลายๆคนเริ่มเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล บางคน Expert Grammar มากถึงขั้นจำได้ทุกกฏไวยากรณ์ ข้อสอบภาษาอังกฤษทำได้หมดทุกข้อ
.
แต่พอมีฝรั่งมาถามทางไปวัดพระแก้วกลับตอบอย่างตะกุกตะกัก…ท่องเก่งแต่ดันเอามาใช้จริงไม่ได้ซะงั้น
.
วิธีการเรียนภาษาอังกฤษ (รวมถึงภาษาใดก็ตาม) ถ้าเริ่มเรียนตั้งต้นจากการเรียนไวยากรณ์แล้ว จะพัฒนาไปฝึกพูดค่อนข้างลำบาก
.
ที่เป็นแบบนี้เพราะอะไร? ทำไมการเรียนภาษาโดยการเริ่มต้นจากการเรียนไวยากรณ์ถึงไม่เวิค คนไทยส่วนใหญ่เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญาตรี รวมเวลาเกือบ 20 ปีกลับพูดภาษาอังกฤษกันไม่ได้ซักที จนเพื่อนบ้านเราเริ่มแย่งงานในประเทศไทยไปทำกันมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วเนี่ย…..
.
เพราะธรรมชาติของมนุษย์เรามักจะเริ่มใช้ภาษาจากการฟังและพูดก่อน โดยเฉพาะเราจะเริ่มคุ้นเคยการใช้ภาษาจากการได้ยินก่อนนั่นเอง
.
ใครเกิดมาต้องเรียนมาตราตัวสะกด อักษรสูงกลางต่ำ ประโยคความเดียวความซ้อน หรือคำสมาสสนธิก่อน ถึงจะพูดภาษาไทยได้ มีไหม?
.
ไม่ใช่เลย! เราทุกคนพูดภาษาไทยได้ ก่อนที่จะเข้าโรงเรียนด้วยซ้ำ แถมพูดแบบถูกหลักไวยากรณ์ มีประธาน กริยา กรรม เสียงวรรณยุกต์เป๊ะซะด้วยนะ
.
เราทุกคนพูดคำว่า “แม่” ได้คล่องและเข้าใจความหมายของคำนี้ ก่อนที่จะรู้ว่าแม่ มาจาก มอ-แอ-แม-ไม้เอก-แม่ ก่อนที่จะรู้ว่า ม.ม้า เป็นอักษรต่ำ ก่อนที่จะรู้ว่า ‘เ’ เรียกว่าไม้หน้า ฯลฯ
.
ลองไปดูตามโรงเรียนเด็กอนุบาลได้เลย เด็กหลายๆคนพูดเป็นประโยคพอสื่อสารกับพ่อแม่ได้แล้ว ทั้งๆที่ไม่รู้ไวยากรณ์ด้วยซ้ำไป
.
เราพูดภาษาไทยกันได้คล่องแล้ว ถึงจะมารู้ภายหลังว่าสิ่งที่เราพูดๆกันอยู่ทุกวันเนี่ย ตรงกับกฏไวยากรณ์ข้อใด
.
นี่แหล่ะ! วิธีเรียนภาษาอังกฤษที่เวิร์คและตรงกับธรรมชาติของมนุษย์มากที่สุด
.
เพราะฉะนั้นกฏข้อแรกของการเรียนภาษาอังกฤษตามระบบของ Mind English ก็คือ เราจะให้คุณเริ่มต้นจากการฟังและพูดก่อนเพื่อให้คุณจะได้สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว มั่นใจ และเป็นอัตโนมัติ